ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมครั้งสำคัญของ “พรรครวมแผ่นดิน” จัดปราศรัยใหญ่ ชูโปรเจ็กต์ยักษ์ “เชียงใหม่ล้านนามหานคร” สร้างสนามบิน – รถไฟฟ้าความเร็วสูง ปั้นซอฟต์พาวเวอร์โชว์จุดแข็งล้านนา ศาสนา วัฒนธรรม อาหาร ทำเงินเข้าจังหวัด ดัน พ.ร.บ.อากาศสะอาดวาระแห่งชาติ แก้ PM 2.5 ชี้!!! เปลี่ยนเชียงใหม่ไม่เหมือนเดิม เลือกพรรครวมแผ่นดิน เบอร์ 47 เท่านั้น!!!
“พรรครวมแผ่นดิน” นำโดยสาวคนเก่ง นางสาวกชพร เวโรจน์ หรือ มาดามหยก ประธานที่ปรึกษาพรรครวมแผ่นดิน และหัวหน้าสาขาภาคเหนือ นายพรชัย จิตรนวเสถียร ประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือ พร้อมผู้สมัคร ส.ส.เขต ทั้ง 10 เขต จังหวัดเชียงใหม่ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และทีมดารานักแสดง Change Together อาทิ ตฤณ เศรษฐโชค กรรมการบริหารพรรค, ไอยศูรย์ ไมดาน (เล็ก ไอยศูรย์), อุ้ย-รวิวรรณ จินดา, อาภาภัทร สุขสวัสดิ์ชล (ลาดา อาร์สยาม), ฐานุพงศ์ ศักดิ์ธนาวัฒน์ (กล้วย เชิญยิ้ม), โก๋-จตุภูมิ วงศาริยะ, บี๋-สวิช เพชรวิเศษศิริ ได้ร่วมกันปราศรัยใหญ่ ณ ศาลาอ่างแก้ว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อบอกถึงนโยบายเร่งด่วนของพรรครวมแผ่นดินที่จะทำอย่างเร่งด่วนให้กับคนเชียงใหม่ หากได้เข้าร่วมรัฐบาล โดยมีประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมรับฟังการปราศรัยอย่างคับคั่ง
บรรยากาศภายในงานคึกคักตั้งแต่ช่วงบ่ายแก่ๆ เพราะมีบรรดาพ่อแม่พี่น้องประชาชน นักศึกษา และบุคคลทั่วไปต่างทยอยเข้ามานั่งในศาลาอ่างแก้ว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเมื่อได้ฤกษ์ดี บี๋-สวิช และ ลาดา อาร์สยาม รับหน้าที่พิธีกร กล่าวต้อนรับ และเล่าถึงที่มาของการปราศรัยใหญ่ในครั้งนี้ จากนั้นก็เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.เขต ทั้ง 10 เขต จังหวัดเชียงใหม่ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ
จากนั้นพิธีกรเรียนเชิญ มาดามหยก ขึ้นกล่าวทักทายผู้เข้าร่วมงาน ตลอดจนทีมดารานักแสดง Change Together โดยเฉพาะเหล่าดาราจากทีม Change Together ที่ได้ออกมาแนะนำตัวทีละคน ก็ได้รับเสียงกรี๊ดดดและเสียงปรบมือ….จากผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก!!!
โดย มาดามหยก กล่าวถึงที่มาของพรรครวมแผ่นดินว่า “สืบเนื่องจากตัวเองเป็นคนเชียงใหม่และเป็นคนไทย เห็นการเมืองที่ผ่านมาในรอบ 10 ปี 20 ปีมานี้ เกิดความขัดแย้งกัน ทำให้การพัฒนาประเทศสะดุดไปมาก จึงรวมกลุ่มคนหลากหลายอาชีพ หลากหลายเพศวัยเข้ามารวมกัน เพื่อมาทำงานให้ประชาชน โลโก้หลักขอพรรคจะเห็นได้ว่าเป็นการรวมทุกสีเข้าด้วยกัน เราจะไม่สลายสีสลายขั้วใด แต่จะรวมทุกสีเข้าด้วยกันทำงานเพื่อพัฒนาประเทศไทย เราอยากรวมใจคนในแผ่นดินไทยให้เป็นปึกแผ่น อยากให้ตระหนักว่าทุกคนคือคนไทยที่อยู่บนแผ่นดินไทย อยากจะก้าวข้ามความขัดแย้งส่งเสริมความสามัคคีปรองดองในสังคมไทยจึงเป็นที่มาของคำว่า รวมแผ่นดิน”
ด้าน นายพรชัย จิตรนวเสถียร ได้ปราศรัยถึงนโยบายพรรคที่จะทำเพื่อคนเชียงใหม่ว่า
“เราตั้งใจที่จะทำโครงการเชียงใหม่ล้านนามหานคร เพราะเชื่อมั่นว่าเชียงใหม่เรามีดีเยอะ ที่ผ่านมา การเลือกตั้ง 10 20 ปี ลองมานึกย้อนดูแล้วเราได้อะไรกับการเลือกตั้ง พรรคเลือกคน ประชาชนเลือกพรรค พรรคส่งเสาไฟฟ้าลงเราก็กาเสาไฟฟ้า สุดท้ายช่วงโควิดเคยเห็นนักการเมืองเข้ามาเดินเยี่ยมหาหรือไม่ เชียงใหม่ล้านนามหานครเกิดขึ้นมาจากความเจ็บปวดของประชาชน ที่ถูกพรรคการเมือง นักการเมือง ทอดทิ้ง หลายอย่างที่คนเชียงใหม่จะได้ แล้วก็ไม่ได้ ถูกกำหนดให้เป็น แล้วก็ไม่ได้เป็น เชื่อหรือไม่สนามแข่งฟอร์มูล่าวัน ที่ขณะนี้อยู่จังหวัดบุรีรัมย์ เคยจะมาอยู่เชียงใหม่ก่อน แต่สุดท้ายโดนดึง และมีหลายโครงการเป็นอย่างนี้ ตนอยู่ในแวดวงท่องเที่ยวรับทราบปัญหาเราจึงจะมาขับเคลื่อนเชียงใหม่ให้เป็นเชียงใหม่ล้านนามหานคร คือการที่จะสร้างซอฟต์ พาวเวอร์ เราจะสร้างความยั่งยืนให้เมืองเชียงใหม่”
นายพรชัย ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “เชียงใหม่ล้านนามหานคร จึงเกิดขึ้นมาบนพื้นฐานของการเอาจุดแข็งในทุกบริบท ตั้งแต่ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ผู้คนวัฒนธรรมประเพณีมาเป็นจุดขาย เพื่อสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยให้ทุกท่าน เพื่อที่จะเดินไปด้วยกันตามแนวทางของพรรครวมแผ่นดิน โครงการที่หนึ่งชื่อจะเป็นโครงการเร่งด่วนคือซอฟต์พาวเวอร์ ไส้อั่ว ข้าวซอย วัดวา เสื้อผ้าเมือง ภาษาคำเมือง อาหารเมือง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่างๆ อย่างคลองแม่ข่า เอาลำน้ำเน่ามาเป็นน้ำดี สร้างชีวิตดี ๆให้ชาวบ้านทั้งหมดคือซอฟต์พาวเวอร์ ส่วนโครงการที่สอง ที่จะเกิดขึ้น พ.ร.บ.อากาศสะอาด เลือกเบอร์ 47 เยอะๆ อากาศจะดีเพราะเราจะขับเคลื่อนให้ พ.ร.บ.อากาศสะอาดเดินหน้าควบคู่เป็นวาระแห่งชาติ และวาระแห่งจังหวัดเชียงใหม่ ปัญหานี้เกิดจากการเข้ามาของกลุ่มทุน แจกเมล็ดข้าวโพดให้ชาวบ้านปลูกและมีการรุกป่า ถามว่าเราจะเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารสัตว์โลก หรือเราจะเป็นศูนย์กลางแห่งการผลิตสมาร์ทฟาร์มเมอร์ เกษตรอินทรีย์ พื้นที่สูงควรจะ พัฒนาสินค้าผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่า แต่กลับเอาไปให้ในทุนส่งเสริมให้ปลูกข้าวโพดและเอาเข้ามาทำร้ายคนทั้งจังหวัดเชียงใหม่ แต่ก่อนบอกเชียงใหม่มีสามฤดู ร้อน หนาว ฝน ตอนนี้ หนาว ฝน หมอกควัน สลบทั้งเมืองแน่ถ้าไม่เดินหน้าเปลี่ยนไปด้วยกันกับพรรครวมแผ่นดินเบอร์ 47”
นายพรชัย กล่าวเสริมอีกว่า “เรื่องขนส่งมวลชน เชียงใหม่เป็นเมืองอันดับสองของประเทศ และเป็นอันดับหนึ่งของภาคเหนือ แต่ยังไม่มีรถไฟฟ้า พรรครวมแผ่นดิน เราไม่ต้องไปต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี มีแต่การต่อรองของบประมาณเอาเงินมาสร้างรางรถไฟ เอามาทำขนส่งมวลชนต่อยอดกับสี่ล้อเหลืองแดงไปทั่วเมืองให้นักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวจำนวนมากและอยู่นานๆ เรื่องที่สี่รถไฟฟ้าความเร็วสูง อีอีซีรถไฟฟ้าไปทางภาคตะวันออกงบ 2แสนล้าน กรุงเทพ – โคราช ดำเนินการไปแล้ว กรุงเทพฯ – ระยอง เซ็นสัญญาไปแล้ว แต่เชียงใหม่เมืองหลักเชื่อมโยงทุกภาคติดกับหลายประเทศเรายังเป็นแค่เอ็มโออยู่เหมือนเดิม เรายังรอรถไฟฟ้ามาอยู่กี่ปีแล้ว ทั้งที่ที่อื่นมีหมดแล้วแต่เชียงใหม่ยังไม่มี เบอร์ 47 เปลี่ยนไปด้วยกันได้รถไฟฟ้า นอกจากนี้เรายังมีนโยบายสนับสนุนให้เกิดสนามบินแห่งที่สอง แต่มีเงื่อนไขต้องมีอัตลักษณ์ของล้านนา ทำให้นักท่องเที่ยวหลงมนต์เสน่ห์เชียงใหม่ตั้งแต่เข้าสนามบิน สามารถบินไปจังหวัดอื่นๆ ไม่ต้องไปต่อที่กทม. หรือการที่ใช้วเลาบินต่ำกว่า 3 ชั่วโมง ต้องมาใช้สนามเชียงใหม่ เช่น สิงคโปร์ เกาหลี ไต้หวัน เป็นต้น พัฒนาเชียงใหม่ให้เป็นเขตเศรษฐกิจท่องเที่ยวพิเศษ เราจะมีเชียงใหม่ Together มาร์เก็ตแพลตฟอร์ม ค้าขายได้ 24 ชั่วโมง”
“สำหรับการพัฒนาเยาวชนเชียงใหม่ จะให้มีกองทุนพัฒนากีฬาเยาวชน ส่งเสริมเยาวชนที่ขาดโอกาส ขาดงบประมาณในครอบครัว ให้เดินหน้าพัฒนาทักษะกีฬาอย่างเต็มที่ จะเห็นได้ว่าในสหรัฐอเมริกา มีการพัฒนานักกีฬา จนทำให้อาชีพนักกีฬามีรายได้มากรองจากอาชีพนักแสดง เพราะกีฬาสร้างเงิน สร้างอาชีพ
ท้ายสุด รวมแผ่นดินตระหนักที่จะมีส.ส.ให้ได้ เราไม่อยากได้คนเดียว แต่อยากให้คนเชียงใหม่ได้ไปด้วยกัน เปลี่ยนไปด้วยกัน ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 3 คนแรก เป็นคนเชียงใหม่ คือ นายพิพัฒน์พงศ์ เดชา, นายมนตรี พรมวัน, และ นายวุฒิพงศ์ ถายะพิงค์ ขอให้เลือกพรรคกาเบอร์ 47 เชียงใหม่จะมีส.ส.มากที่สุดในภาคเหนือ ให้ท่านได้ใช้งาน” นายพรชัย กล่าวทิ้งท้าย
พรรครวมแผ่นดิน ถึงจะเป็นพรรคน้องใหม่ แต่ให้ใจเกินร้อย และพร้อมเปลี่ยน…ไปด้วยกัน เพื่อความสดใสและความยั่งยืนให้กับประเทศไทย 14 พฤษภาฯ เลือกพรรครวมแผ่นดิน เบอร์ 47 Change Together เปลี่ยน…ไปด้วยกัน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ ส่งเสริมประชาธิปไตย รับใช้ประชาชน