แพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังเตือนคุณแม่หลังคลอดอาจต้องเผชิญกับอาการปวดหลัง แนะอย่าชะล่าใจ เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคกระดูกสันหลังได้ 

นพ.ชุมพล คคนานต์ แพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลเอส สไปน์ เผยว่าเนื่องจากการตั้งครรภ์ทำให้โครงสร้างร่างกายคุณแม่เกิดการเปลี่ยนแปลง เพื่อแบกรับน้ำหนักของทารกที่เพิ่มขึ้นตามอายุครรภ์ จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการปวดหลังระหว่างตั้งครรภ์ และถ้าหากไม่มีการดูแลตัวเองในช่วงหลังคลอดอย่างถูกวิธี ก็อาจทำให้คุณแม่ฟื้นตัวได้ช้าและมีอาการปวดหลังรุนแรงมากขึ้น จนโครงสร้างกระดูกผิดปกติ หมอนรองกระดูกมีปัญหา กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรืออาจอันตรายถึงขั้นพิการได้ 

เพราะโดยปกติแล้วในช่วงหลังคลอดร่างกายจะปรับสู่สภาพปกติได้ใน 1-2 เดือน แต่หากไม่ระวังอิริยาบถ คือมีลักษณะท่าทางการอุ้มลูกที่ผิด หรือท่าทางในการให้นมที่ไม่ถูกต้อง ก็อาจส่งผลให้คุณแม่ปวดคอ และปวดกล้ามเนื้อหลัง  เพราะอาการปวดมันเกิดจากการที่กระดูกสันหลังทำงานหนักมากเกินไป ทำให้หมอนรองกระดูกเสื่อมทำให้ปวดหลังจากน้ำหนักเยอะ โดยเฉพาะคนที่มีลูกแฝดก็จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดหมอนเสื่อมได้มากกว่า  อย่างไรก็ตามอาการปวดหลัง หลังคลอดในบางรายส่วนใหญ่จะหายไปเอง เพราะพอน้ำหนักลงก็จะทำให้อาการปวดมักจะดีขึ้น แต่ว่าในรายที่มีหมอนรองกระดูกเสื่อมหรือปลิ้นตอนช่วงที่ท้องอยู่อันนี้มันอาจจะมีอาการหลงเหลืออยู่ เมื่อไหร่ก็ตามไปอุ้มลูกเยอะๆ เดินเยอะๆ ยกของหนักเหมือนกัน ก็จะมีอาการปวดหลัง ร้าวลงขาหรือมีอาการชาที่น่องหรือปลายนิ้วเท้า

ทั้งนี้คุณแม่ควรสังเกตอาการตัวเองคือ 1. ถ้าอุ้มลูกแล้วมีอาการปวดหลัง  2. ถ้าอุ้มลูกแล้วมีอาการปวดสะโพกร้าวลงขาชัดเจน ควรรีบพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อหาสาเหตุ 

นอกจากนี้ นพ.ชุมพล ยังแนะนำท่าอุ้มลูกที่ถูกต้องเพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นโรคกระดูกสันหลังคือ 1.เวลาต้องอุ้มลูกก็คือต้องหลังตรงคุกเข่า ย่อเข่าลง อุ้มลูกขึ้นมาก่อนแล้วก็ค่อยยืนขึ้นแบบหลังตรง อันนี้คือจะใช้กล้ามเนื้อต้นขาจากสะโพกแขนหลัง  2.ในระยะยาวจะต้องเสริมกล้ามเนื้อหลังให้แข็งแรง เพราะแน่นอนน้ำหนักของลูกต้องโตขึ้นทุกวัน ทำให้น้ำหนักลูกเพิ่มขึ้นทุกวัน ดังนั้นการใช้งานจะต้องเพิ่มขึ้น เราจึงต้องเสริมกล้ามเนื้อหลังของเราด้วยการออกกำลังกาย ส่วนกีฬาที่ดีที่สุดคือการว่ายน้ำ หรือถ้าไม่สะดวกว่ายน้ำ อาจจะต้องมีท่ากายบริหารทุกวันเพื่อให้กล้ามเนื้อหลังแข็งแรง และใช้งานได้โดยมีอาการปวด

นพ.ชุมพล ยกตัวอย่างเคสคุณแม่ที่เจอล่าสุดคือ คุณแม่ท่านนี้นั่งรถเข็นมาเพราะมีอาการปวดสะโพกร้าวลงขา ความปวดอยู่ระดับ 9-10 เมื่อมาตรวจแล้วคนไข้ตัดสินใจผ่าตัดเลยเพราะไม่อยากกลับไปวนลูปกินยา กายภาพ และไม่หายสักที  ซึ่งก่อนหน้านี้เขาซื้อยากินเอง ไปคลินิกใกล้บ้านก็ได้ยามากิน ไม่ได้ x-ray หรือว่า MRI แต่มาที่โรงพยาบาลเอส สไปน์ แพทย์จะทำการ x-ray ร่วมกับการทำ MRI จึงพบว่าสาเหตุของอาการปวดเกิดจากที่มีหมอนรองกระดูกปลิ้นกดทับเส้นประสาทเยอะพอสมควร พอรักษาเสร็จอาการปวดสะโพกร้าวลงขาของเขาหายไปเหมือนไม่มีอาการปวด

นพ.ชุมพล ยังฝากทิ้งท้ายว่าหากคุณแม่มีความกังวลเรื่องอาการปวดหลังอยากให้เข้ารับการรักษากับแพทย์เฉพาะทางและโรงพยาบาลที่น่าเชื่อถือ เพราะการรักษาที่มีความแม่นยำอาศัยเทคโนโลยีที่ดีที่สุดจะทำให้การรักษาลุล่วงไปด้วยดีและปลอดภัย อย่างที่โรงพยาบาลเอส สไปน์ ที่นี่ไม่ได้มีเพียงเทคนิคการรักษาแบบใหม่เท่านั้น แต่โรงพยาบาล เอส สไปน์ ยังมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เครื่องมือทางการแพทย์เฉพาะทาง และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เน้นประสิทธิภาพในการรักษา ทำให้แพทย์สามารถรักษาคนไข้ได้อย่างมั่นใจและประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษา