หากแฟน ๆ สงสัยว่าละคร “ศีรษะมาร” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ทำไมฉากปี๋หัวขาดถึงหลอน สมจริง เหมือนสาว “หยาดทิพย์ ราชปาล” ถอดหัวได้จริง วันนี้เรามีคำตอบ พร้อมที่จะเปิดเผยถึงเบื้องหลังความหลอนว่า การถ่ายทำฉากหัวปี๋ขาดนั้น จะยากง่ายอย่างไร เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราจะพาแฟนๆไปเปิดเบื้องหลังกองถ่ายละครกันเลย

เริ่มต้นด้วยฉากปี๋หัวขาด ฉากระดับตำนานที่เป็นภาพจำของแฟนๆละครสยองขวัญ แถมเป็นกระแสดังชั่วข้ามคืนกับฉากสยองฉากนี้ แต่เบื้องหลังบอกเลย กว่าจะออกมาให้แฟน ๆ ละครชื่นชมนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะสาวหยาด และทีมงานต้องถ่ายทำนานกว่าหกชั่วโมงเต็ม เราเลยขอยก เล่าเบื้องหลังของซีนนี้ เรื่มต้นด้วยที่สาวหยาดจะต้องถ่ายฉบับเต็มก่อนหนึ่งรอบในฉากที่เธอต้องแสดงอารมณ์ผิดหวังในรัก แถมเสียใจหนักที่คนรักดันไปเลือก และเข้าใจลูกเมียน้อยที่เธอเกลียดที่สุดอย่างแมวเหมียว ต่อด้วยสาวหยาดต้องลงมานอนข้างถนน แต่เธอต้องสวมชุดเขียวคลุมหัว เพื่อทางผู้กำกับจะถ่ายฉากซีจี หัวขาด บวกกับนำนักแสดงเอ็กซ์ตร้าที่ต้องมามาร์คจุดที่หัวหยาดจริง ๆ ต้องมานอนให้เสมือนเป๊ะที่สุด พอถ่ายมุม ถ่ายฉากตัวของหยาดสร็จ ต่อด้วยหยาดต้องใส่ชุดเขียวคลุมทั้งตัว และเหลือแต่ศีรษะของตัวเอง บอกกับเธอต้องนอน และทำอารมณ์ผิดหวังในรัก บวกกับความตกใจที่หัวขาด ซึ่งทางทีมงานต้องถ่ายมุมมองของศีรษะหยาดสามมุมมองของกล้อง ก่อนที่จะถ่ายเฟรมเปล่าทั้งหมดเป็นลำดับสุดท้าย เพื่อนำทุกอย่างมาตัดต่อรวมกัน

ฉากปี๋รอการผ่าตัดจากคุณอาปีติ เริ่มต้นด้วยทีมงานเนรมิตห้องทดลองวิทยาศาสตร์ บวกกับต้องเลื้อยพื้นบนโต๊ะเป็นวงกลมให้มีขนาดใหญ่กว่าหัวของหยาด เพื่อให้หยาดรอดหัวเข้าไปได้ หลังจากนั้นก่อนถ่าย หยาดก็จะมุดเข้าไปใต้โต๊ะทดลอง แล้วเข้าไปนั่งคลุกเข่า เอาหัวเธอค่อยๆสอดขึ้นมา และเริ่มการท่องบท แต่หากบอกแค่นี้อาจดูเหมือนง่าย แต่แฟน ๆ ละครลองนึกดูว่าหากเรานั่งคุกเข่าอยู่ในนั้นนานนับชั่วโมง บวกกับเล่นละครต่อบทกับนักแสดงคนอื่น งานนี้เข่ามีทรุดกันแน่นอน แต่หยาดก็สามารถทำได้

สุดท้ายฉากดร.ปีติ ผ่าตัดต่อหัว เป็นอีกหนึ่งฉากที่คนพูดถึงกันอย่างมาก แถมความสมจริงก็ไม่ต้องพูดถึงในตอนที่ดร.ปีติ ขยับหัวของปี๋มาเชื่อมต่อกับตัว เรียกว่าฉากนี้เป็นอีกหนึ่งฉากซีจีที่ละครไทยเทียบชั้นกับหนังดังหลาย ๆ เรื่องได้เลย ซึ่งเบื้องหลังฉากนี้ กว่าจะเซตอย่างลงตัวให้แฟน ๆ ได้ชม คนที่รับบทหนักก็คงเป็นสองนักแสดง วิลลี่ และ หยาด วิลลี่ที่ต้องเล่นฉากเดิมซ้ำ ๆ สองถึงสามรอบ และแต่ละรอบเรียกได้ว่าไม่ต่ำกว่าหนึ่งชั่วโมง ส่วนหยาดที่ต้องใส่ชุดเขียว บวกกับการแสดงที่ตัวเองต้องถ่ายทอดอารมณ์การใช้พลังจิต สะกดให้ร่างกายยังสามารถใช้ได้ กับอารมณ์ที่ยังไม่อยากตาย ฉันต้องอยู่รอดนั้นก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน แถมการถ่ายซีจีก็ไม่ธรรมดา เพราะไม่ว่ามุมกล้องไหน สาวหยาด และวิลลี่ต้องพร้อมใจกันถ่ายทอดออกมาแบบพร้อมเพียง แถมต้องเล่นให้เหมือนเดิมเป๊ะ ๆ งานนี้เลยพูดได้คำเดียวว่า นักแสดงและทีมงาน ร่วมมือกันสร้างชิ้นงานให้ละครเรื่องนี้แบบดีที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้

ฉากซีจีปี๋หัวขาดยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้ เพราะยังมีหัวปี๋ลอยได้ บวกกับการเคลื่อนไหวในการใช้พลังจิต ที่ซีจีก็ไม่แพ้ฉากระดับตำนานที่เราได้หยิบยกมาฝากกัน แต่จะเป็นอย่างไร จะสนุกมากแค่ไหน แฟน ๆ ต้องคอยติดตาม พร้อมลุ้นระทึกไปพร้อมกันได้ในละคร “ศีรษะมาร” ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 และสามารถดูย้อนหลังบนแอปพลิเคชัน iQIYI และเว็บ www.iQ.com”