
ฯพณฯ ท่านกร ทัพพะรังสี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศล แด่คุณเปรม ปิยะสัจจะเดช และครอบครัว ณ ศูนย์ธรรมสถานเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ ๙ (วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก) เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา



คุณเปรม ปิยะสัจจะเดชผู้ที่อุทิศตนเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ โดยมุ่งเน้นพัฒนาคน สังคม นโยบายและผลักดันการค้าระหว่างไทยและอินเดีย อีกทั้งเป็นแบบอย่างของการใช้ชีวิตโดยมีคุณธรรมเป็นบรรทัดฐานจนได้รับฉายาว่าคุณธรรมเคลื่อนที่ อีกทั้งเป็นแบบอย่างที่ดีของความเป็นคนไทย







ด้วยความเชื่อของคุณเปรม ปิยะสัจจะเดชที่ว่า “หากเราสอนให้ลูกเป็นคนดีแล้ว ลูก ๆ เราจะอยู่ได้ต่อเมื่อประเทศชาติต้องดีด้วย” คุณเปรมจึงอุทิศตนอย่างเต็มกำลังในหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรพัฒนา โดยไม่หวังผลตอบแทนส่วนตัว ความเสียสละของท่านกลายเป็นแรงบันดาลใจแก่คนรุ่นใหม่ และเป็นแบบอย่างของผู้นำที่ขับเคลื่อนประเทศด้วยคุณธรรมและวิสัยทัศน์ คุณงามความดีของคุณเปรมนั้นมีมากมายอาทิเช่น ในสมัยที่เป็นรองประธานประชาคมเขตห้วยขวาง ได้เข้าร่วมพัฒนาแผนแม่บนรถไฟฟ้าใต้ดิน (รฟม.) อีกทั้งพัฒนาเขตห้วยขวางจนได้เป็นเขตอันดับ 1 ของ 51 เขตของกรุงเทพฯ คุณเปรมเป็นผู้ก่อตั้งและอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนนานาชาติ M.I.S.B. International School สุขุมวิท 39 เป็นโรงเรียนนานาชาติที่บรรจุหลักคุณธรรม (Moral) ในหลักสูตรการสอนและเป็นโรงเรียนแรกที่เน้นอาหารสุขภาพ (มังสวิรัติ) ให้กับนักเรียนนานาชาติทุกคน ในระดับนโยบายของประเทศคุณเปรมได้เป็นผู้จุดประกายและผลักดันนโยบาย “ครอบครัว” และ “คุณธรรม” จนเป็นวาระแห่งชาติ กว่านั้นท่านได้เป็นผู้ผลักดันการเชื่อมโยงของทุกศาสนาให้รวมตัวกันเป็นหนึ่งโดยโดยใช้หลัก “ศีล 5” ซึ่งท่านเรียกว่า “กฎ 5 ข้อ” อันเป็นบรรทัดฐานทางศีลธรรมร่วมของทุกศาสนาสู่การสร้างความเข้าใจ ความรัก และความสามัคคีของทุกศาสนาในชาติไทย และ ผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์สมาธิโลก
ในด้านต่างประเทศ คุณเปรม ให้ความสำคัญกับการค้าระหว่างประเทศไทยและอินเดีย ท่านมีบทบาทสำคัญในยุครัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ในช่วงที่ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีและเป็นนายกสมาคมเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทย-อินเดียได้แต่งตั้งคุณเปรมเป็นประธานฝ่ายเจรจาการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวเพื่อผลักดันการค้าระหว่างสองประเทศ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญของประเทศไทยและเป็นจุดเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ในเวลาต่อมาประเทศไทยและอินเดียได้บรรลุข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างกันโดยมีรองนายกรัฐมนตรีท่านกร ทัพพะรังสีและท่านอรุณ เจตลีย์ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์อินเดียร่วมเข้าเจรจาจนบรรลุข้อตกลง นโยบายไทยอินเดียยังคงส่งต่อจากรัฐบาลหนึ่งไปสู่อีกรัฐบาลหนึ่งโดยคุณเปรมมีบทบาทสำคัญในการผลักดันจนกระทั่งได้รับตำแหน่งเป็น ประธานศูนย์ธุรกิจไทย-อินเดีย (ประจำประเทศอินเดีย) สภาหอการค้าไทย โดยให้คุณเปรมไปประจำอยู่ที่สำนักงานส่งเสริมการค้ากระทรวงพาณิชย์ในประเทศอินเดียและนำผู้ประกอบการไทยไปทำการค้าและลงทุนในประเทศอินเดีย หลังจากภารกิจเสร็จสิ้นคุณเปรมได้กลับมาประเทศไทยและจัดตั้งชมรมธุรกิจไทย-อินเดีย และ ต่อมาได้เปิดสมาคมการค้า ส่งเสริมการส่งออกและการลงทุน (กสสท. / PEITA) คุณเปรมยังคงร่วมผลักดันการค้าการลงทุนระหว่างไทยอินเดียกับท่านกร ทัพพะรังสีจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
คุณเปรมได้ปฏิบัติงานอย่างมุ่งมั่นในการคุณประโยชน์เพื่อชาติและส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยและอินเดีย จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต และ มีผลงานโดดเด่นหลายประการ อาทิ
- ผู้ก่อตั้งและนายกสมาคมการค้าส่งเสริมการส่งออกและการลงทุน (PEITA)
- ประธานศูนย์ธุรกิจไทย-อินเดีย สภาหอการค้าไทย (ประจำประเทศอินเดีย)
- รองนายกฯ สมาคมมิตรภาพไทยอินเดีย
- ประธานชมรม ธุรกิจไทย-อินเดีย
- ประธานฝ่ายเจรจาการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว สมาคมวัฒนธรรมเศรษฐกิจไทย-อินเดีย (TIECA)
- ผู้ก่อตั้งและอดีตผู้อำนวยการ โรงเรียนนานาชาติ M.I.S.B. สุขุมวิท 39
- รองประธานคณะทำงานผู้ช่วยรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี
- อนุกรรมาธิการ คณะคุณธรรมและจริยธรรม ศิลปวัฒนธรรม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ
- คณะกรรมการที่ปรึกษา โรงเรียนนายร้อยตำรวจ และที่ปรึกษาหนังสือพิมพ์ตำรวจไทย
- ที่ปรึกษาสมาคมกำลังพลสำรองฝ่ายพลเรือน
- ผู้อำนวยการกิตติมศักดิ์ หนังสือพิมพ์สยามชน
- รองประธานประชาคมเขตห้วยขวาง
พิธีในวันนี้มีการตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ 18 รูป และสามเณรจำนวน 70 รูป และสวดธรรมนิยามเพื่ออุทิศส่วนกุศลและแสดงความรำลึกถึงคุณูปการและเกียรติประวัติของของคุณเปรม ปิยะสัจจะเดช ผู้เป็นแบบอย่างของผู้ทำคุณประโยชน์แก่ชาติ ทั้งในด้านสังคม ศาสนา และเศรษฐกิจ ผู้ซึ่งได้อุทิศตนในการทำงานเพื่อชาติไทยและอินเดียอย่างต่อเนื่องและยาวนานจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต